Mtrio Hotel

ระบบการให้คะแนนโรงแรมมีกี่ระดับ? รู้จักระดับดาวของโรงแรมก่อนจองที่พัก

เวลาค้นหาที่พักหรือโรงแรมออนไลน์ หลายคนอาจเคยเห็นคำว่า “โรงแรม 3 ดาว”, “โรงแรม 5 ดาว” หรือแม้กระทั่ง “ระดับรีวิวจากผู้ใช้ 9/10” แล้วสงสัยว่าระบบการให้คะแนนโรงแรมมีกี่ระดับ และใช้เกณฑ์อะไรในการจัดอันดับ?

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจระบบการจัดอันดับโรงแรมทั้งแบบ “ระดับดาว” และ “คะแนนรีวิว” เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกที่พักได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ระบบการให้คะแนนโรงแรมคืออะไร?

ระบบการให้คะแนนโรงแรมเป็นวิธีการจัดอันดับคุณภาพของโรงแรม โดยใช้เกณฑ์หลายด้าน เช่น ความสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวก บริการ ความปลอดภัย และประสบการณ์โดยรวมของผู้เข้าพัก

การให้คะแนนมี 2 รูปแบบหลักๆ คือ

  1. ระดับดาวของโรงแรม (Hotel Star Rating)
  2. คะแนนรีวิวจากผู้เข้าพัก (Guest Review Score)

การให้คะแนนมี 2 รูปแบบหลักๆ

1. ระบบระดับดาวของโรงแรม (1–5 ดาว)

นี่คือระบบการจัดอันดับโรงแรมที่พบได้ทั่วไป และเป็นมาตรฐานในหลายประเทศ ซึ่งมักอ้างอิงจากองค์ประกอบทางกายภาพของโรงแรม เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ และคุณภาพโดยรวม

ระดับดาวแต่ละระดับมีความหมายอย่างไร?

  • 1 ดาว – ที่พักขั้นพื้นฐาน มีบริการจำกัด เหมาะกับนักเดินทางสายประหยัด
  • ⭐⭐ 2 ดาว – สิ่งอำนวยความสะดวกเริ่มมี เช่น แอร์ Wi-Fi ห้องน้ำส่วนตัว
  • ⭐⭐⭐ 3 ดาว – บริการมาตรฐาน เช่น รูมเซอร์วิส แผนกต้อนรับ 24 ชม. มีร้านอาหาร
  • ⭐⭐⭐⭐ 4 ดาว – บริการพรีเมียม เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม
  • ⭐⭐⭐⭐⭐ 5 ดาว – หรูหราเหนือระดับ พร้อมบริการครบวงจร เช่น สปา บัตเลอร์ ห้องอาหารมิชลิน

หมายเหตุ : เกณฑ์การให้ดาวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือองค์กรที่ให้การรับรอง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), Forbes, AAA, หรือเว็บไซต์จองที่พักอย่าง Booking.com

2. ระบบคะแนนรีวิวจากผู้เข้าพัก (User Review Score)

คะแนนนี้ไม่ได้จัดโดยหน่วยงานกลาง แต่เป็นคะแนนที่ได้จากประสบการณ์จริงของผู้เข้าพัก ซึ่งมักแสดงเป็นตัวเลข เช่น 8.5/10 หรือ 4.2/5

สิ่งที่มักถูกรีวิว ได้แก่

  • ความสะอาดของห้องพัก
  • ความสะดวกในการเดินทาง
  • การบริการของพนักงาน
  • ความคุ้มค่ากับราคา
  • ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ตัวอย่างคะแนน

  • ⭐ 9.0 – 10.0 = ยอดเยี่ยม (Excellent)
  • ⭐ 8.0 – 8.9 = ดีมาก (Very Good)
  • ⭐ 7.0 – 7.9 = ดี (Good)
  • ⭐ ต่ำกว่า 6.9 = ปานกลางหรือควรพิจารณาให้ดี

ข้อดี : เป็นคะแนนจากผู้ใช้งานจริง จึงสะท้อนคุณภาพจริงในปัจจุบัน
ข้อจำกัด : คะแนนอาจเปลี่ยนแปลงได้เร็วตามรีวิวล่าสุด

แล้วควรเชื่อระบบไหน?

จริงๆ แล้วทั้ง 2 ระบบมีประโยชน์ต่างกัน

  • ระดับดาว ใช้ดูภาพรวมของโรงแรม เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานบริการ
  • คะแนนรีวิว ใช้ประเมินประสบการณ์จริงของผู้เข้าพัก โดยเฉพาะข้อมูลล่าสุด

แนะนำ : ดูทั้ง 2 อย่างประกอบกันเสมอ เช่น โรงแรม 4 ดาว แต่รีวิวแค่ 6.8/10 อาจไม่คุ้ม
แต่ถ้าโรงแรม 3 ดาว แต่คะแนนรีวิว 9.2/10 แสดงว่ามีคุณภาพสูงในราคาประหยัด

เคล็ดลับก่อนเลือกโรงแรมจากคะแนน

  1. อ่านคอมเมนต์มากกว่าดูคะแนนอย่างเดียวเพราะรายละเอียดในรีวิวจะบอกจุดแข็งจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่
  2. ดูคะแนนรีวิวล่าสุดเพื่อประเมินสภาพปัจจุบันของโรงแรม
  3. เปรียบเทียบหลายเว็บไซต์ เช่น Agoda, Booking, Google Maps
  4. ดูคะแนนเฉพาะหัวข้อ เช่น “ความสะอาด” “ทำเล” หรือ “ความคุ้มค่า”

สรุป

ระบบการให้คะแนนโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ระดับดาว (1–5 ดาว) ที่สะท้อนมาตรฐานบริการ และคะแนนรีวิวจากผู้เข้าพัก ที่สะท้อนประสบการณ์จริงของผู้ใช้งาน การดูทั้งสองร่วมกันจะช่วยให้คุณเลือกโรงแรมที่เหมาะกับความต้องการ งบประมาณ และความคาดหวังได้อย่างมั่นใจ

เลือกโรงแรมให้คุ้มค่า ไม่ใช่แค่ดูดาว แต่ต้องดูประสบการณ์จริงด้วย แล้วการพักผ่อนของคุณจะไม่มีผิดหวัง!

ติดต่อเรา